ตอกย้ำความเป็นยอดดาวยิงคนหนึ่งของยุคนี้อีกครั้งสำหรับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้า อาร์เซน่อล หลังจากเหมาคนเดียว 2 ประตูจนช่วยให้ทีมชนะ เชลซี 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศของ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2019-20 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนทำให้ทีมได้แชมป์ไปครอง

นับตั้งแต่ที่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในช่วงต้นปี 2018 โอบาเมยอง ก็ทำประตูได้อย่างต่อเนื่องจนเป็นคนที่ทีมแทบจะขาดไม่ได้ไปแล้ว แต่ตอนนี้อนาคตของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลังจากที่จะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า และตอนนี้ยังไม่ได้ต่อสัญญากับทีมสักที

ที่จริงระหว่างฤดูกาล 2019-20 โอบาเมยอง ก็เคยทำสถิติได้ไปบ้างแล้ว อย่างเช่นการเป็นนักเตะ อาร์เซน่อล คนแรกในรอบ 22 ปี ที่ทำประตูได้ถึง 7 ลูก ในการลงเล่นเกมลีก 7 นัดแรกของฤดูกาล แต่พอจบซีซั่นนี้แล้วเขาก็ยังสร้างตัวเลขที่น่าสนใจขึ้นมาอีกหลายอย่าง ลองไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

– เบอร์ 1 ในอังกฤษ
หากนับตั้งแต่ที่ โอบาเมยอง ประเดิมสนามให้กับ อาร์เซน่อล ในเกมลีกที่เจอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2018 แล้วนั้น หัวหอกชาวกาบองก็ถือเป็นนักเตะของทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่สามารถทำประตูรวมในทุกรายการได้มากที่สุด ด้วยจำนวนถึง 70 ลูกด้วยกัน

UFABETWINS

 

สำหรับอันดับสองในชาร์ตนี้คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีก ลิเวอร์พูล ที่ทำด้ 68 ประตู ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยจำนวน 61 ลูก ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ดาวยิง สเปอร์ส, ซาดิโอ มาเน่ ปีก ลิเวอร์พูล และ ราฮีม สเตอร์ลิง ดาวเตะ “เรือใบสีฟ้า” ทำได้ 59 ประตูหากนับรวมทุกรายการตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2018 จนทำให้พวกเขาเป็นที่ 4 ร่วม

– ผู้กอบกู้ของทีม
ในฤดูกาลนี้ โอบาเมยอง อาจจะอดเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก จากการทำได้ 22 ประตู แพ้ เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอก เลสเตอร์ 1 ลูก แต่ประตูของเขามีความหมายกับ อาร์เซน่อล อย่างมาก เพราะในจำนวนนั้นมีถึง 17 ประตูที่มีผลกระทบกับผลการแข่งขันโดยตรง อย่างเช่นตอนแรกทีมทำท่าจะเสมอ แต่ประตูของเขากลับเป็นประตูชัยให้ทีม เป็นต้น

UFABETWINS

 

ด้วยเหตุนี้ 22 ประตูที่ โอบาเมยอง ทำได้ในลีกประจำฤดูกาลนี้เลยมีส่วนโดยตรงในการทำให้ อาร์เซน่อล ได้คะแนนไปถึง 19 คะแนน หรือก็คือคิดเป็น 37.5 เปอร์เซ็นต์จากแต้มทั้งหมดที่ทีมดังแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำได้ในฤดูกาลนี้

– เกมใหญ่ก็ไม่กดดัน
ในฤดูกาลนี้ โอบาเมยอง ได้เจอกับทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ (ทีมในกลุ่มดังกล่าวนอกเหนือจาก อาร์เซน่อล คือ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และ สเปอร์ส) ด้วยกันไปทั้งหมด 11 นัดจากทุกรายการ และเขาก็ทำได้ถึง 7 ประตูใน 11 เกมนั้น

UFABETWINS

 

ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ เชลซี คือทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ที่เสียประตูให้ โอบาเมยอง มากที่สุดในฤดูกาลนี้ หลังจาก โอบาเมยอง ทำได้ 3 ประตูจาก 2 เกมที่เจอกับ เชลซี แบ่งเป็น 1 ลูกในเกมลีกเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยที่วันนั้น อาร์เซน่อล แพ้ 1-2 และ 2 ลูกในเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงดำที่เขาพาทีมได้แชมป์มาครองนั่นเอง

– ค่าเฉลี่ยสูงลิบ
จนถึงตอนนี้ โอบาเมยอง มีค่าเฉลี่ยการทำประตูใน พรีเมียร์ลีก สูงถึง 0.64 ลูกต่อ 1 นัด ซึ่งในประวัติศาสตร์การเล่น พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซน่อล มีเพียงคนเดียวที่มีค่าเฉลี่ยดีกว่าเขา นั่นคือ เธียร์รี่ อองรี ตำนานดาวเตะชาวฝรั่งเศสที่มีค่าเฉลี่ย 0.68 ลูกต่อเกม

UFABETWINS

 

ขณะเดียวกัน โอบาเมยอง ก็ยังเป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยการใช้เวลาน้อยที่สุดต่อการทำ 1 ประตูเป็นอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ด้วย ที่จำนวน 128 นาทีต่อ 1 ประตู โดย 3 คนที่ทำได้ดีกว่าเขาคือ อเกวโร่ ด้วยผลงาน 107 นาทีต่อ 1 ประตู, เคน ที่จำนวน 120 นาทีต่อ 1 ประตู และ อองรี ด้วยค่าเฉลี่ย 121 นาทีต่อ 1 ประตู

– คนแรกในรอบ 34 ปี
แม้ว่า อาร์เซน่อล จะได้แชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง แต่ที่จริงแล้ว โอบาเมยอง ลงเล่นในรายการดังกล่าวให้ทีมไปเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น นั่นคือรอบรองชนะเลิศกับ แมนฯ ซิตี้ และนัดชิงดำกับ เชลซี แต่แค่นั้นก็ถือว่าเขามีความสำคัญอย่างมากต่อการทำให้ อาร์เซน่อล ได้แชมป์แล้ว เพราะใน 2 รอบนั้น อาร์เซน่อล ทำประตูรวมกันได้ 4 ลูก และมันก็เป็นผลงานของเขาทั้งหมด

UFABETWINS

 

เรื่องดังกล่าวทำให้ โอบาเมยอง กลายเป็นคนแรกในรอบ 34 ปีหลังสุดที่สามารถทำประตูในเกม เอฟเอ คัพ ได้ 2 ประตูทั้งในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศในฤดูกาลเดียวกัน โดยคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาที่ทำอย่างนั้นได้คือ เอียน รัช ตำนานกองหน้า ลิเวอร์พูล

คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/

อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://www.darkcelldigitalmusic.net