UFABETWQINS

โจ โกเมซ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ถูกจับภาพมีแผลบริเวณใต้ตาขวา คาดเกิดจากเรื่องวิวาทกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกแมนฯ ซิตี้ ที่โดนดร็อปจากเกมทีมชาติในวันพฤหัสบดีนี้กับมอนเตเนโกร

เผยบรรยากาศค่ายซ้อมทีมชาติอังกฤษ ที่ เซนต์ จอร์จ พาร์ค เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการซ้อมยกแรกของทีม “สิงโตคำราม” ชุดใหญ่ โดยเป้าสนใจของนักข่าวและตากล้องได้แก่ โจ โกเมซ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่มีปัญหากันมาตั้งแต่เกมพรีเมียร์ลีก ซึ่ง ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 จนลุกลามถึงแค้มป์ทีมชาติเมื่อวันจันทร์ ส่งผลให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดชื่อสเตอร์ลิง ออกจากเกมต่อไปที่เวมบลีย์ ในคืนวันพฤหัสนี้ทันที

อย่างไรก็ดี ทั้งสองต่างลงซ้อมเป็นปกติต่อหน้าสื่อ แต่ช่างภาพในอังกฤษนั้นได้ซูมเข้าไปที่ใบหน้าของโกเมซ ปรากฎว่ากองหลังทีมหงส์แดง มีบาดแผลเล็กๆ เป็นรอยแดงที่ใต้ตาขวา ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการปะทะกับสเตอร์ลิง ในห้องอาหารของทีมนั่นเอง

รายงานระบุว่า สเตอร์ลิง ถึงขนาดพยายามที่จะบีบคออีกฝ่าย แล้วยังพูดยั่วไปด้วยว่า “ตอนนี้แกคิดว่าตัวเองยังเป็นพี่เบิ้มอยู่รึเปล่าวะ” โดย สเตอร์ลิง ต้องการสื่อว่า โกเมซ สามารถทำตัวให้ดูน่าเกรงขามได้ก็ต่อเมื่ออยู่กับ ลิเวอร์พูล ที่มีเพื่อนร่วมทีมคอยกางปีกป้อง ต่างกับในแคมป์ทีมชาติที่มีคนจาก ลิเวอร์พูล คอยช่วยเหลือเขาน้อยกว่าเยอะ

ทั้งนี้ สเตอร์ลิง ได้ขอโทษ โกเมซ และคนอื่นๆ ในทีมแล้ว จนดูเหมือนว่ามันไม่น่าจะมีเรื่องร้ายแรงอะไร อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีนักเตะเอาประเด็นจากที่อื่นมาเข้าสู่ทีมชาติจนทำให้เกิดปัญหาระหว่างคนชาติเดียวกัน และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างที่เด่นๆ กันสัก 3 กรณี โดยที่หวังว่า สเตอร์ลิง กับ โกเมซ จะไม่เข้าข่ายนี้ไปด้วย

– ริโอ เฟอร์ดินานด์ vs จอห์น เทอร์รี่ : ทีมชาติอังกฤษ
อังกฤษ เคยมียุคทองอันประกอบไปด้วยนักเตะอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนี่ย์, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ จอห์น เทอร์รี่ เป็นต้น จนทำให้แฟนบอล “สิงโตคำราม” ต่างก็คาดหวังว่าพวกเขาจะได้แชมป์รายการใหญ่ๆ ที่รอคอยมานาน แต่สุดท้ายทีมยุคทองก็ไม่เคยประสบความสำเร็จแบบยิ่งใหญ่เลย

เฟอร์ดินานด์ คนพี่ เคยแสดงความเชื่อว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทีมยุคทองล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงก็คือการที่นักเตะหลายคนไม่สามารถแยกแยะความเป็นคู่แข่งในระดับสโมสรออกจากทีมชาติได้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องจริง เพราะตัว ริโอ เองนั่นแหละคือหลักฐานที่ชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง หลังจากที่เขาเคยแตกหักกับ เทอร์รี่ ที่ควรจะเป็นคู่หูสุดแกร่งในตำแหน่งปราการหลังของเขาในทีมชาติอังกฤษ เพียงแต่กรณีนี้ไม่ใช่การแตกหักเพราะเรื่องสโมสร

ประเด็นก็คือ เทอร์รี่ เคยถูกกล่าวหาว่าเหยียดผิว แอนทอน เฟอร์ดินานด์ น้องชายแสนรักของ ริโอ ในปี 2011 โดยตอนนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่โรจนถึงขนาดที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) และตำรวจถึงขั้นลงทาสอบสวน ก่อนที่ เทอร์รี่ จะถูกมองว่ามีความผิดจริง และโดนตั้งข้อหา

“ผมไม่เคยพูดกับ จอห์น เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นเลยนะ ผมไม่ได้คุยกับเขาอีกต่อไปแล้ว แต่ต่อให้ผ่านมาแล้ว 3 ปี ผมก็ยังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะยกโทษหรือลืมความเจ็บปวดที่เขาสร้างให้กับเรา” ริโอ กล่าวใน #2sides หนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง โดยเขายังเคยเรียก เทอร์รี่ ว่า “ไอ้ตัวน่าทุเรศ” ด้วย

– เคราร์ด ปิเก้ vs อัลบาโร่ อาร์เบลัว : ทีมชาติสเปน
อย่างที่รู้กันดีว่าเกมระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด ถือเป็นเกมที่มีความดุเดือดเกิน 5 ดาว เพราะมันไม่ได้เป็นแค่การดวลกันของ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ใน ลา ลีกา สเปน เท่านั้น แต่มันยังเป็นเหมือนสงครามระดับประเทศด้วย เพราะว่า บาร์เซโลน่า ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของแคว้นกาตาลุนย่า ที่อยากแยกตัวออกจากทีมชาติสเปนอยู่ตลอด ส่วน เรอัล มาดริด ก็เป็นเหมือนตัวแทนของประเทศสเปน ที่ต้องขัดขวางการพยายามแยกตัวออกไปของแคว้นกาตาลุนย่าให้ได้ และแสดงให้เห็นว่า สเปน เหนือกว่าแคว้นกาตาลุนย่าด้วย

แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่นักเตะบางคนของทั้งสองทีมก็พอจะสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง เพราะแข้งของทั้งสองทีมก็มีฝีเท้าดีจนเรียกติดทีมชาติสเปนกันหลายคน โดยเฉพาะ อีเกร์ กาซียาส อดีตนายด่าน “ราชันชุดขาว” และ ชาบี เอร์นานเดซ ตำนานกองกลาง “อาซูลกราน่า” ที่รักกันมากจนแทบจะเป็นเพื่อนตายกันก็ว่าได้

น่าเศร้าที่กรณีของ เคราร์ด ปิเก้ กองหลัง บาร์เซโลน่า และ อัลบาโร่ อาร์เบลัว ฟูลแบ็ก เรอัล มาดริด (ปัจจุบันเลิกเล่นไปแล้ว) มันไม่เป็นอย่างนั้น ทั้งคู่เปิดสงครามใส่กันบนโลกออนไลน์หลายต่อหลายหน นอกจากนี้ ปิเก้ ยังเคยบอกด้วยว่าไม่เคยคิดว่า อาร์เบลัว เป็นเพื่อนร่วมทีมเลยตอนที่ไปเล่นให้ทีมชาติสเน และบอกว่าอีกฝ่ายเป็นเหมือนกรวยธรรมดาๆ เท่านั้น

 

คลิก  >>>  https://www.darkcelldigitalmusic.net

 

 

ติดตามได้ที่  >>>  UFABETWINS